Live Like a Winner

บล็อกการตลาดและรีวิวธุรกิจทั่วโลก

Vector modern barcode scanner reads box on storage. Contemporary rfid technology for warehouse with radio waves. Cartoon electronic device for shipping, selling and distribution. Business background.

Barcode หรือ RFID แบบไหนดีกว่ากันสำหรับระบบคลังสินค้าในยุคดิจิทัล

ถ้าคุณทำงานเกี่ยวกับคลังสินค้า หรือดูแลเรื่องการจัดการสต็อกสินค้าอยู่บ่อยๆ คงเคยได้ยินคำถามนี้มาบ้างว่า “ตกลงควรใช้ Barcode หรือ RFID ดี” เพราะทั้งสองอย่างก็เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การจัดการสินค้าเป็นระบบมากขึ้น ตรวจนับได้ง่ายขึ้น และลดความผิดพลาดได้จริง

แต่ก็ต้องยอมรับว่าแต่ละแบบก็มีข้อดีข้อจำกัดต่างกัน แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าแบบไหนเหมาะกับคลังสินค้าของเรา ลองมาทำความเข้าใจไปพร้อมกันค่ะ

Scan codes composition with collage of realistic human hands holding scanners icons with qr and barcode vector illustration SSUCv3H4sIAAAAAAACA3VRTU/DMAz9K5bPFR/itvuEhIRA7DhxcFOvNUvjEacdaOp/x9mGxIVL5Gc/P9svJ2zJJODqhBLjZCVTEU24um+QOymahSKu7pYGrVCZjM25jgIV7r16xr8i21PN4wpf2g8OxdC7ptbxOjrMmiQYLs1/rGexwDFSYp2c994g9ZzCd53oIzNHpvMCWy/tj4XzeN1mlo71EtLUSQ1x1kDR6w91W79Mx5rtMx0GCVlmzhV3bMED3ARKENShv+NBTaoPcJQyeMKX6hl0B5kpihUJMEyjdwyUOoNBYyepB3ORxNlAgia7NH9mcA60lKs6zH6xZvhr9g2s3WlqI8P6dXNmv3Hq2FkJnl4fYad5dMMaLF/VNmyu/l207LbjoFVqZi/p3j9vWZYfn8IGn9oBAAA=

Barcode คืออะไร?

บาร์โค้ดคือ ชุดของเส้นและช่องว่างที่เรียงกันในรูปแบบเฉพาะ ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อเก็บข้อมูลที่สามารถอ่านได้ด้วยเครื่องสแกนแสง (Scanner) ข้อมูลที่เก็บไว้ในบาร์โค้ดมักจะเป็นตัวเลข ตัวอักษร หรือสัญลักษณ์ต่างๆ ที่ใช้ระบุตัวตนของสินค้า บริการ หรือวัตถุต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

การทำงานของ Barcode และฟังก์ชันที่ตอบโจทย์

บาร์โค้ดทำงานโดยการเข้ารหัสข้อมูลของสินค้าในรูปแบบของเส้นและช่องว่าง ซึ่งเครื่องสแกนจะอ่านและแปลงเป็นข้อมูลตัวเลขหรือตัวอักษรเพื่อนำไปใช้ในระบบคลังสินค้า จุดแข็งของเทคโนโลยีนี้คือความเรียบง่ายและการใช้งานที่เป็นมาตรฐานทั่วโลก จึงสามารถใช้ร่วมกับระบบซอฟต์แวร์จัดการสินค้าได้อย่างแพร่หลาย

การใช้งานของบาร์โค้ดมีหลายรูปแบบ เช่น

  • การเช็กสินค้าเข้า-ออกจากคลัง
  • การอัปเดตสต๊อกแบบเรียลไทม์
  • การตรวจสอบราคาหรือรายละเอียดสินค้า
  • การพิมพ์ฉลากสินค้าเพื่อการจัดส่ง

ประเภทของบาร์โค้ด

บาร์โค้ดมีหลายประเภท แต่ที่นิยมใช้กันทั่วไปสามารถแบ่งได้เป็น 2 หลักๆ ดังนี้

1. บาร์โค้ด 1 มิติ (1D Barcode หรือ Linear Barcode)

เป็นประเภทที่พบเห็นได้บ่อยที่สุด มีลักษณะเป็นแถบเส้นตรงที่ประกอบด้วยเส้นแนวตั้งและช่องว่างที่มีความกว้างต่างกัน สามารถเก็บข้อมูลได้จำกัด ส่วนใหญ่เป็นตัวเลขหรือตัวอักษรไม่กี่หลัก เช่น

  • UPC (Universal Product Code) ใช้กับสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปในอเมริกาเหนือ
  • EAN (European Article Number) ใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย (เช่น EAN-13 ที่มี 13 หลัก)
  • Code 39, Code 128 นิยมใช้ในอุตสาหกรรม การขนส่ง และโลจิสติกส์

2. บาร์โค้ด 2 มิติ (2D Barcode หรือ Matrix Barcode)

เป็นประเภทที่มีความซับซ้อนกว่า สามารถเก็บข้อมูลได้มากขึ้น ทั้งตัวอักษร ตัวเลข ลิงก์เว็บไซต์ หรือแม้แต่รูปภาพเล็กๆ บาร์โค้ดประเภทนี้ไม่เพียงแค่เรียงกันเป็นเส้นตรง แต่มีการจัดเรียงข้อมูลในแนวตั้งและแนวนอน ทำให้เก็บข้อมูลได้หนาแน่นกว่ามาก เช่น

  • QR Code (Quick Response Code) ใช้สำหรับเข้าถึงเว็บไซต์ เชื่อมต่อ Wi-Fi หรือการชำระเงิน
  • Data Matrix นิยมใช้ในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะการติดตามชิ้นส่วนขนาดเล็ก
  • PDF417 มักใช้ในเอกสารที่ต้องการเก็บข้อมูลปริมาณมาก เช่น ใบขับขี่ หรือบัตรผ่านขึ้นเครื่องบิน
RFID chip. Radio Frequency Identification. Digital Technology concept. Vector illustration

RFID คืออะไร?

RFID (Radio Frequency Identification) คือเทคโนโลยีที่ใช้ คลื่นวิทยุ ในการระบุและติดตามวัตถุโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องมีการสัมผัสหรือมองเห็นโดยตรงเหมือนการสแกนบาร์โค้ด ทำให้การจัดการข้อมูลและสินทรัพย์ต่างๆ ทำได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

หลักการทำงานของ RFID

เมื่อเครื่องอ่าน RFID ส่งคลื่นวิทยุออกไป แท็ก RFID ที่อยู่ในระยะก็จะรับสัญญาณคลื่นวิทยุนั้น แท็กจะใช้พลังงานจากคลื่นวิทยุ (สำหรับแท็ก Passive) หรือพลังงานจากแบตเตอรี่ (สำหรับแท็ก Active) เพื่อส่งข้อมูลที่เก็บไว้ในชิปกลับไปยังเครื่องอ่าน จากนั้นเครื่องอ่านจะส่งข้อมูลที่ได้รับไปยังระบบคอมพิวเตอร์หรือฐานข้อมูลเพื่อประมวลผลและแสดงผล ทำให้สามารถระบุตัวตน ตำแหน่ง หรือสถานะของวัตถุนั้นๆ ได้อย่างรวดเร็ว

รูปแบบการใช้งานของ RFID ในคลังสินค้า

  • การตรวจสอบสินค้าเข้า-ออกจากคลังแบบอัตโนมัติ
  • การอัปเดตสต๊อกแบบเรียลไทม์ โดยไม่ต้องพึ่งการนับมือ
  • การติดตามการเคลื่อนไหวของสินค้าในพื้นที่คลังอย่างแม่นยำ
  • การป้องกันสินค้าสูญหายหรือถูกย้ายโดยไม่บันทึก
  • การเชื่อมข้อมูลกับระบบ ERP หรือ WMS เพื่อให้ข้อมูลในคลังเชื่อมกับแผนกอื่นแบบไร้รอยต่อ

การใช้งาน RFID ที่พบเห็นได้ทั่วไป

RFID ถูกนำไปประยุกต์ใช้อย่างกว้างขวางในหลายอุตสาหกรรม เช่น

  • การจัดการคลังสินค้าและโลจิสติกส์ ติดตามสินค้าคงคลัง การรับเข้า-ส่งออก การระบุตำแหน่งสินค้า
  • การค้าปลีก ระบบป้องกันการโจรกรรม, การจัดการสินค้าคงคลังในร้านค้า
  • การควบคุมการเข้า-ออก บัตรพนักงาน, คีย์การ์ด, ระบบ Easy Pass บนทางด่วน
  • การติดตามสินทรัพย์ การติดตามอุปกรณ์ เครื่องมือ หรือยานพาหนะ
  • อุตสาหกรรมการผลิต การติดตามชิ้นส่วนในสายการผลิต, การควบคุมคุณภาพ
  • การดูแลสุขภาพ การติดตามผู้ป่วย, อุปกรณ์ทางการแพทย์, ยา

ตารางเปรียบเทียบประสิทธิภาพของ Barcode และ RFID

หัวข้อBarcodeRFID
ราคาติดตั้งต่ำสูง
ความเร็วในการอ่านอ่านทีละชิ้นอ่านได้หลายชิ้นพร้อมกัน
ความแม่นยำขึ้นอยู่กับคนสแกนและตำแหน่งแม่นยำกว่า เพราะใช้คลื่นวิทยุ
การใช้งานง่าย ติดตั้งเร็วต้องมีความรู้พื้นฐานเพิ่มเล็กน้อย
ความทนทานฉลากอาจฉีกขาดหรือซีดจางได้ทนกว่า โดยเฉพาะ RFID แบบฝังในพลาสติก

แล้วแบบไหนเหมาะกับธุรกิจของคุณ?

หากคุณมีงบจำกัด และคลังสินค้าไม่ได้ซับซ้อนมาก ระบบ Barcode ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดี ใช้งานง่าย ควบคุมต้นทุนได้ และเพียงพอกับการจัดการพื้นฐาน

แต่ถ้าคุณอยากยกระดับการจัดการคลังสินค้าให้แม่นยำและรวดเร็วขึ้น มีงบลงทุน และต้องจัดการสินค้าปริมาณมาก การเปลี่ยนไปใช้ RFID อาจให้ความคุ้มค่ามากกว่าในระยะยาว


ไม่มีคำตอบที่ตายตัวว่า Barcode หรือ RFID ดีกว่ากัน เพราะขึ้นอยู่กับขนาดของธุรกิจ งบประมาณที่คุณมี และความซับซ้อนของการจัดการคลังสินค้าในแต่ละวัน

สิ่งสำคัญคือ ความเหมาะสม กับรูปแบบการทำงาน ไม่จำเป็นต้องเริ่มจากเทคโนโลยีที่ล้ำที่สุดเสมอไป แต่ต้องเริ่มจากสิ่งที่คุณควบคุมได้ และตอบโจทย์ธุรกิจในปัจจุบันจริงๆ

ไม่ว่าจะเลือกแบบไหน ถ้าคุณวางระบบให้ดี มีการจัดการข้อมูลที่ชัดเจน การดูแลคลังสินค้าก็จะไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไปค่ะ