การทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตสามารถทำได้ทั้งผ่านสัญญาณ Wi-Fi และการเชื่อมต่อผ่านสาย LAN แต่ผลลัพธ์ที่ได้มักแตกต่างกันอย่างชัดเจน เนื่องจากแต่ละรูปแบบมีข้อจำกัดและเงื่อนไขที่ไม่เหมือนกัน หากต้องการประเมินความเร็วอินเทอร์เน็ตของ True อย่างแม่นยำ ควรเข้าใจความแตกต่างของทั้งสองแบบดังนี้
การเช็คความเร็วผ่าน Wi-Fi

Wi-Fi เป็นช่องทางที่สะดวกที่สุด เนื่องจากอุปกรณ์ส่วนใหญ่รองรับและไม่ต้องใช้สายเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ได้อาจมีความผันผวนสูงกว่า LAN ปัจจัยที่ส่งผล ได้แก่
- ระยะห่างระหว่างเราเตอร์และอุปกรณ์
- สิ่งกีดขวาง เช่น ผนังหรือเฟอร์นิเจอร์
- สัญญาณรบกวนจากอุปกรณ์อื่น เช่น ไมโครเวฟ Bluetooth หรือเราท์เตอร์ข้างบ้าน
- จำนวนอุปกรณ์ที่ใช้งาน Wi-Fi พร้อมกัน
- ประสิทธิภาพของเราเตอร์ โดยเฉพาะหากเป็นรุ่นเก่าหรือรองรับแบนด์วิธไม่มาก
ผลลัพธ์ที่พบบ่อยคือ ค่า Download และ Upload มักต่ำกว่าความเร็วแพ็กเกจจริง และค่า Ping อาจสูงกว่าปกติ
การเช็คความเร็วผ่าน LAN
การเชื่อมต่อ LAN จะให้ค่าที่นิ่งและแม่นยำกว่า เพราะเป็นการส่งข้อมูลแบบสายตรง ไม่มีการสูญเสียจากสัญญาณไร้สาย จุดเด่นคือ
- ความเสถียรสูง
- Ping ต่ำที่สุด
- ความเร็วใกล้เคียงแพ็กเกจที่สมัคร
- เหมาะสำหรับการวัดผลเพื่อเช็กคุณภาพอินเทอร์เน็ตจริง
LAN เหมาะสำหรับการทดสอบกรณีต้องการข้อมูลที่แม่นยำ เช่น เช็คความเร็วเน็ต True ตรวจสอบปัญหาระบบเน็ตบ้าน เล่นเกมออนไลน์ หรือวัดผลก่อน-หลังปรับจูนเน็ต

สรุปความแตกต่างที่มีผลต่อผลลัพธ์
- Wi-Fi สะดวก แต่ผลลัพธ์ผันผวนตามสภาพแวดล้อม และความเร็วลดหลั่นผ่านคลื่นสัญญาณ
- LAN ให้ค่าตรงกับความเร็วจริงมากที่สุด เหมาะสำหรับการประเมินคุณภาพเครือข่ายอย่างเป็นทางการ
- หากผลลัพธ์ผ่าน Wi-Fi ต่ำผิดปกติ ควรเปรียบเทียบกับการทดสอบ LAN เพื่อแยกปัญหาระหว่างเราเตอร์ อุปกรณ์ หรือสัญญาณอินเทอร์เน็ต
